ความสุขอยู่ที่ไหน
ความสุขอยู่ที่ไหน ..ค้นหากันไปไกล แต่อยู่ใกล้แค่เอื้อม
คนส่วนใหญ่มองว่าความสุขนั้นเป็น “ผล” ของการได้มาซึ่งสิ่งที่น่ารักน่าพอใจ หรือความสมปรารถนาในสิ่งที่ต้องการ ก็เลยพยายามแสวงหา ”เหตุ” กันใหญ่ แต่แล้วพอได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการแล้ว ความสุขที่ได้มากลับอยู่ได้เพียงไม่นาน จากนั้นก็จะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ และการแสวงหาครั้งใหม่ก็จะเริ่มขึ้น ในขณะเดียวกันจะรู้สึกทุกข์กับสิ่งที่ยังไม่ได้มาและรอคอยจนกว่าจะได้มา วนไปอย่างนี้เป็นวงจรไม่รู้จบ
ความสุข..อยู่ที่ไหน โดยปกติก็จะอยู่ตรงหน้าเรานี่ล่ะครับ แอร์เย็นๆ อาหารอร่อยๆ วิวสวยๆ แต่ใจเราชอบเผลอไปคิดถึงเรื่องอื่น โดยเฉพาะสิ่งที่ยังขาดหรือสิ่งที่เราไม่พอใจ แล้วก็บ่นว่าชีวิตไม่มีความสุข จริงๆ แล้วความสุขของเราเป็นผลผลิตจากความคิดและความรู้สึกที่เรามีต่อตัวเอง ความสุขอยู่ที่ใจ ใจที่ทำให้เกิดสุขเป็น “ทักษะ” ที่ทุกคนเรียนรู้ได้ เมื่อฝึกบ่อยๆ จะคล่องขึ้นเหมือนการฝึกเล่นกีฬาและดนตรี สมองจะเปลี่ยนไปและเริ่มทำแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องคิดหรือพยายาม คนที่ฝึกจะมีความสุขมากขึ้น

สร้างนิสัย ไม่ใช่เงื่อนไข
ถ้าตอนนี้เราไม่มีความสุข ในอนาคตเราก็จะไม่มีความสุข เพราะมันคือนิสัยของเรา นิสัยที่ชอบสร้างเงื่อนไขของการมีความสุขให้ตัวเอง หัดใส่ใจกับสิ่งที่มีและข้อดีในชีวิต ตราบใดที่เรายังคงมองแต่สิ่งที่ยังไม่มี เราจะไม่มีวันพบกับความสุข เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรา ‘มี’ อะไร แต่อยู่ที่เรา ‘เป็น’ คนยังไง อย่าโหยหาแต่สิ่งที่ขาดจนลืมสนใจคุณค่าของสิ่งที่เรามี (take for granted) พื้นฐานของการมีความสุขคือการชื่นชมในสิ่งที่เรามี ถ้านึกถึงสิ่งดีๆ ในชีวิตของตัวเองไม่ออก ลองไปถามคนอื่นดูครับ ส่วนใหญ่ได้คำตอบกันทั้งนั้นและเป็นคำตอบที่เป็นความจริง เพราะมีคนจำนวณไม่น้อยที่มักไม่ค่อยมองสิ่งที่ตัวเองมี แต่ชอบมองและนึกถึงสิ่งที่คนอื่นมีแต่ตัวเองยังขาด..!
มองต่างมุม
ตราบใดที่เรายังต้องดำเนินชีวิตอยู่ ก็เป็นธรรมดาที่เรายังต้องเจอกับสิ่งที่ไม่น่ารักน่าพอใจ ลองมองโลกในแง่ดี ลองมองหาประโยชน์ทุกครั้งจากเหตุการณ์แย่ๆ เหรียญมีสองด้านเสมอ เหตุการณ์ต่างๆ ก็เช่นกัน แล้วเราจะมีกำไรชีวิตมากขึ้น
รอยยิ้ม
คนเราชอบอยู่ใกล้คนที่มีรอยยิ้มและพูดคุยเรื่องสนุกสนาน ถ้าเราเป็นคนที่ชอบทำหน้าบึ้งหน้างอ บ่นแต่ปัญหาของตัวเอง มองสิ่งต่างๆ แต่ในด้านร้าย และวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นอยู่เป็นประจำ คนที่อยู่ใกล้ๆ จะรู้สึกเบื่อหน่าย แล้วสุดท้ายจะค่อยๆ ห่างเราไปโดยไม่รู้ตัว การสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะด้วยการพูดคุยเรื่องที่สนุกสนานเรื่องที่น่าบันเทิงใจ จะดีกับทั้งตัวเราเองและคนที่เราอยู่ใกล้ครับ
รังสีแห่งความสุข
ความสุขและการมองโลกในแง่ดีมีรังสีในตัวมันเอง พยายามอยู่ใกล้คนเหล่านี้เพื่อรับและแพร่กระจายสองสิ่งนี้ออกไปให้คนรอบข้าง ไม่นานนัก ..ชีวิตเราจะปกคลุมด้วยรังสีแห่งความสุข รังสีนี้ไม่มีวันหมดและผลิตจาก “ใจ” ได้ทันที ฝึกบ่อยๆ ครับ แล้วไม่ต้องกลัวคนอื่นแย่งความสุขไป ทุกคนสามารถมีได้มากเท่าที่ต้องการ
ความสุข เป็นเรื่องของทักษะ นั่นหมายความว่า เราสามารถ “ฝึก” ที่จะเป็นคนที่มีความสุขและมองโลกในแง่ดีได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งสิ่งภายนอก สร้างเองได้เลยครับ ไม่ต้องรอเงื่อนไขใดๆ และไม่ต้องรอใคร ความสุขปลายทางก็มี ความสุขระหว่างทางก็มาก อยากให้เริ่มกันเลยนะครับ
.
เป็นกำลังใจให้ครับ
-อนัตตา-
.
.