ชีวิตที่ ถูกจังหวะ
คำพูดคำนี้…จริงๆแล้วหมายถึงอะไรครับ ปกติเรามักจะได้ยินแต่คำว่า ร้องเพลงให้ถูกจังหวะ เต้นให้ตรงจังหวะ หรือว่าพูดให้มีจังหวะจะโคน ในความเป็นจริงแล้วเนี่ยครับ การใช้ชีวิตก็ต้องมีจังหวะที่ถูกต้องนะครับ เราจะได้มีความสุขและสนุกกับทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิต
ช่วงไหนที่มีโอกาสวิ่งแบบสปริ้นท์(Sprint) ก็ต้องใส่กันให้เต็มที่ ช่วงไหนที่ต้องวิ่งแบบจ๊อกกิ้ง(Jogging) ก็วิ่งแบบเนิบๆ ไปกันเรื่อยๆ และแน่นอนครับ บางช่วงเราต้องเดินก็ควรเดิน แล้วให้เดินแบบสองเท้าก้าวเหยียบที่รู้ตัว มั่นคง และต่อเนื่อง ถ้าเหนื่อยนัก ก็เดินให้ช้าลงครับ แต่อย่าหยุดเดิน…!
การเคลื่อนที่หรือการใช้ชีวิตของเราขึ้นอยู่กับเส้นทางที่อยู่ตรงหน้า หรือสถานการณ์และความเป็นจริงของชีวิต ณ ปัจจุบันครับ ถ้าทางตรงถนนเรียบ ช่วงนี้ก็สปริ้นท์กันเต็มที่ วิ่งแหวกลมแหวกอากาศ ได้ความสบายของสายลมที่พัดผ่าน ได้ความสนุก เป็นการลองกำลังหรือศักยภาพของตัวเองเพื่อจะได้ใช้ชีวิตพุ่งไปข้างหน้าให้ถึงจุดหมาย ได้ท้าทายตัวเอง ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างก็ช่วงนี้ล่ะครับ ทุกวันของช่วงนี้คือการเก็บเกี่ยว เรียนรู้ และสั่งสมประสบการณ์ ใครทำใครได้ครับ เป็นเรื่องของปัจเจกจริงๆ ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน….. ใส่เลยครับ ออกตัวสปริ้นท์(Sprint)เลย สนุกและได้เรียนรู้สิ่งดีๆมากมาย
เวลาที่ต้องขึ้นเขา…..ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจและความฝันที่…เราอยากทำให้เป็นจริง ซึ่งคือภูเขาที่เราอยากพิชิตเอง หรือปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงานหรือการดำเนินชีวิตซึ่งคือภูเขาที่มาขวางอยู่ตรงหน้าโดยมิได้ตั้งใจ วิ่งให้ช้าลงมากๆ วิ่งเหยาะเลยครับ เน้นที่จังหวะของการเคลื่อนที่ ไม่ใช่ความเร็ว ถ้าทางชันมาก เดินครับ ให้ใช้การเดินแทน ช่วงนี้ต้องอดทนและ ประเมินตัวเองเพื่อไปให้ถึงยอดเขา มองหาตัวช่วยซึ่งหมายถึง ผู้เชี่ยวชาญ องค์ความรู้ที่ใช่ และเครื่องมือ(Tools) ที่เหมาะสม ที่สำคัญ…มองไปข้างหน้าครับ ที่ยอดเขา อย่าก้มหน้า ให้มองที่ยอดเขาแล้วดำเนินการตามแผนที่วางไว้ ช้าหน่อยไม่เป็นไรครับ อย่ารีบ, ลนลานจนสะดุด แล้วสุดท้ายอาจไปไม่ถึง…..อดทน อดใจเอาไว้ พอไปถึงยอดเขาแล้วจะกลายเป็นความภูมิใจครับ
มาถึง…เส้นทางที่เป็น อ๊อฟโรด(Off-Road) ในป่า ในพื้นที่ที่ไม่ใช่ถนน หรือเส้นทางที่ไม่ราบเรียบ อาจจะต้องข้ามน้ำ ข้ามลำธารด้วยในบางครั้ง นี่ก็คือช่วงที่ชีวิตมีอุปสรรคต่างๆ ถาโถมเข้ามา หนักบ้าง เบาบ้าง บางทีก็เข้ามาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว กำลังวิ่งเพลินๆ ถนนเรียบๆ อยู่ ปรากฏว่าพอผ่านโค้งมา ถนนขาดกลายเป็นป่าเลย…..ก็ต้องไปต่อครับ อย่ามัวแต่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ตั้งสติให้มั่น แล้วใช้สติเป็นเครื่องอยู่ ครับ “สติ” ครับ จากนั้นออกแบบการเคลื่อนที่ของเราให้เหมาะสม เดินแบบสำรวจ วิ่งเหยาะๆ ได้ถ้าไม่มีกิ่งไม้มาขวางกั้นหรือเส้นทางไม่ขรุขระจนเกินไป ลำธารถ้าไม่กว้างนัก พอโดดข้ามได้ให้โดด ถ้าไม่ไหวก็เดินฝ่าไปครับ อย่ากลัวเปียก เปียกเดี๋ยวก็แห้ง สุดท้ายทุกอย่างก็แปรเปลี่ยน ไม่มีอะไรที่จะ..คงสภาพได้ตลอดไป มันเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครับ

อุปสรรคเนี่ย มันทำกับเราได้แค่สองอย่างครับ คือไม่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นก็ทำให้เราอ่อนแอลง ต้องเลือกครับ อยากให้เราเลือกอย่างแรกครับ ดูเผินๆ หลายคนมองว่าเป็นเรื่องน่าท้อแท้ แต่บางคนกลับมองว่าเป็นเรื่องท้าทาย พวกเค้ามักพูดว่า เค้าไม่ชอบชีวิตที่จำเจและราบเรียบเกินไป แล้วใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ทุกวันตามครรลองแบบคนทั่วไป แต่ที่จะชอบผจญภัย ชอบความท้าทายในชีวิต นี่ก็เป็นอีกแนวคิดหนึ่งในการใช้ชีวิตที่น่าสนใจทีเดียวครับ
ช่วงไหนพอมีจังหวะที่ต้องเข้าดาวน์ทาวน์(downtown) เราจะมีโอกาส…..ครับ..มันคือโอกาส….โอกาสที่จะได้เห็นผู้คนเดินสัญจรไปมาในลักษณะที่ต่างกันไป บางคนเดินเรื่อยๆตามจังหวะของเค้า บางคนเดินแบบเร่งรีบเพราะมีกิจธุระ บางคนเดินชอปปิง(Shopping) อย่างเพลิดเพลิน บางคนเดินแล้วคุยไปด้วยกับเพื่อนที่มาด้วยกัน ช่วงนี้คือช่วงพักของเราครับ เช่น พักจากงานโปรเจคที่เพิ่งเสร็จสิ้นก่อนที่จะเริ่มโปรเจคใหม่ ช่วงลาหยุดยาวประจำปี หรือช่วงที่เราตั้งใจใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์(Slow Life) ในช่วงเวลานี้อยากให้เราเดินแบบสโตรลลิง(strolling) ครับ คือเดินทอดน่อง ผ่อนคลายสบายๆ เพลิดเพลินกับการมองดูไปรอบๆ ไม่ว่าจะเป็น ผู้คน ร้านค้า ต้นไม้ สิ่งของ รวมถึงตึกและอาคารที่มีดีไซน์(design) และสีสันแตกต่างกันออกไป ตอนนี้เป็นช่วงที่เราจะได้ใช้เวลาแบบไม่เร่งรีบเพื่อพินิจพิจารณาและสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัวเรา ซึ่งไม่สามารถทำได้ในขณะที่เรากำลังวิ่ง ตอนที่เราเดินทอดน่อง คนอื่นๆอาจจะกำลังเดินแบบเร่งรีบ หรือในทางตรงข้ามบางคนอาจกำลังนั่งพักบนม้านั่งสาธารณะ นั่นเป็นเพราะช่วงเวลาและจังหวะชีวิตของคนแต่ละคนไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกัน ก็ใช้ช่วงนี้แหละครับ ในการทบทวนชีวิต ทบทวนถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นว่ามันได้ให้…ข้อคิดอะไรกับเราบ้าง คือตอนนี้เราพักแล้วเปลี่ยนตัวเองจากผู้วิ่งมาเป็นผู้ดูคนอื่นวิ่งบ้าง มันอาจจะช่วยสะท้อนคำว่า “ชีวิต” และจริงๆเเล้ว เราต้องการอะไรจากเส้นทางที่เหลือบ้าง…..ไม่ต้องรอให้ถึงช่วงพักหรือช่วงหยุดยาวก็ได้นะครับ การทบทวนชีวิตทำได้อยู่บ่อยๆ ลองเข้าดาวน์ทาวน์แล้วเดินทอดน่องดูครับ
หนทางที่กำลังดำเนินอยู่เป็นเส้นทางชีวิตของแต่ละคนครับ มันไม่ได้เรียงเป็นซีเควนซ์(Sequence) หรือลำดับที่เหมือนกัน อาจจะมาก่อนมาหลังและสลับกันไปมา ตั้งใจดูดีๆครับ สิ่งที่เรากำลังเผชิญหน้า…เป็นเส้นทางแบบไหน จะได้ออกแบบการเคลื่อนที่ได้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวเราและคนที่เรารัก จากนั้นจะได้ใช้ ชีวิตที่ ถูกจังหวะ
อยากให้เรามองให้ออกว่า ชีวิตไม่ใช่การต่อสู้ แต่ชีวิตคือการเรียนรู้ครับ ทำไมเราต้องไปต่อสู้กับชีวิตเราเอง มันเหนื่อยและเป็นทุกข์ใจเปล่าๆ เราควรเลือกที่จะเรียนรู้จากสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตเรามากกว่า จากนั้น…
เลือกลงจังหวะให้ถูก แล้วผูกความสุขให้ทุกวัน
.
เป็นกำลังใจให้ครับ
-อนัตตา-
.
พบกับเนื้อหาด้านบนในรูปแบบของวีดีโอได้ที่ https://youtu.be/k_xrpnBKIXI
.