เกลียดความสงสาร
…..จะมีใจให้ให้กัน ต้องรักฉันเพราะคู่ควรกับเธอ
อยากจะรักเธอ เพราะฉันดีพอ …. เกลียดความสงสาร เกลียดความเห็นใจ …
“วลีเด็ด ประเด็นหลัก” จากบทเพลงร็อคในยุค 90 ที่ขับร้องโดยคุณเหน่ง (นักร้องนำวง Y Not 7) ได้ความรู้สึกและเข้าถึงจิตใจของหลายๆ คนในยุคก่อนรวมถึงกลุ่มนักฟังเพลงและนักดนตรีในยุคนี้ ที่ได้มีโอกาสเข้าถึงงานเพลงดังกล่าว ผมเองพอได้มีโอกาสเห็นคำชื่นชมต่างๆ จากคนรุ่นใหม่ในโซเชียลมีเดีย (Social Media) เลยตัดสินใจย้อนอดีตเพื่อฟังงานเพลงชิ้นดังกล่าวอีกครั้ง (จริงๆ แล้วฟังอีกหลายครั้งเลยครับ) จึงได้พบว่าเนื้อหาและการขับร้องมิได้ให้แค่อรรถรสทางดนตรีเท่านั้น หากแต่ยังสื่อสารให้ผู้คนหันกลับมา..มองเห็นและสำรวจคุณค่าในตัวเอง

คนทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเองซึ่งก็จะแตกต่างกันออกไป ตามความถนัด ความชอบ ความพยายาม หรือแม้กระทั่งพรสวรรค์ของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตามในความแตกต่างของแต่ละปัจเจกบุคคล ก็ยังมีความเหมือนที่ทุกๆ คนล้วนมีเหมือนกันหมด
ครับ ใช่ครับ ในความต่างก็ มีความเหมือน เช่นกัน…
ความเหมือนที่ว่านั้น ก็คือ “ความเป็นธรรมดา”
ความเป็นธรรมดาที่เราทุกคนจะต้องมีทั้งข้อดีและข้อด้อย จุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุง นิสัยที่น่ารักและนิสัยที่ต้องขัดเกลา รวมถึงแง่มุมอื่นๆ ที่หล่อหลอมจนกลายเป็นตัวเราและไม่เหมือนใครเขา ซึ่งนั่นทำให้เกิดลักษณะเฉพาะตัวในแบบที่เราเป็น เราจึงไม่จำเป็นต้องทำตัวเองให้เหมือนคนอื่น ไม่ต้องประสบความสำเร็จเหมือนๆ หรือในแบบเดียวกับคนอื่น
อย่าเปรียบเทียบก้าวที่สิบของเรา กับก้าวที่ร้อยของผู้อื่น เพราะมันเป็นคนละเส้นทางและต่างก็มีทัศนียภาพที่งดงามแตกต่างกันไป
อย่าพยายามวัดศักยภาพของพญาอินทรี ด้วยสมรรถภาพในการล่าเหยื่อของสิงโต
อย่าใช้ชีวิตของเราเพื่อเติมเต็มความคาดหวังของใคร และไม่มีผู้ใดควรจะเข้าใจตัวเรามากเท่ากับตัวเราเอง
เรียนรู้ที่จะหาข้อดีและจุดแข็งของตัวเองให้เจอ ในขณะที่ยอมรับในจุดด้อยและสิ่งที่ต้องปรับปรุง ใจดีและเมตตากับตัวเองให้มากหน่อย รู้จักที่จะให้อภัยและรักตัวเองในแบบที่ถูกต้อง เน้นทำและมุ่งให้เกิดประโยชน์จากข้อดีและจุดแข็งที่เรามี รู้จักที่จะให้ด้วยความรักและมีความสุขจากการให้แม้จะเป็นคำพูดเล็กๆ น้อยๆ ที่กล่าวชื่นชมคนรอบตัว เพียงแต่ขอให้มาจากความจริงใจ พอใจและภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น
คุณค่าในตัวเราไม่ได้มาจากคำพูดของผู้อื่น แต่มาจากการกระทำและเสียงสะท้อนที่กึกก้องภายในใจของเรา ยิ่งซื่อสัตย์กับตัวเองมากเท่าไหร่ เสียงสะท้อนในใจจะดังกึกก้องมากเท่านั้น
ถ้าจะมีใครสักคนที่ตั้งใจมอบความรัก, ความพอใจ, ความชื่นชม หรือแม้กระทั่งหยิบยื่นและให้โอกาสที่ดีกับเรา ก็ให้เขามอบสิ่งนั้นด้วยความศรัทธาและความเชื่อมั่นในแบบที่เราเป็น สิ่งนั้นคือคุณค่าที่เราคู่ควร มิใช่มาจากความสงสารและความเห็นใจ อยากให้ซื่อสัตย์และเชื่อมั่นในคุณค่าที่เรามี อย่ายอมให้ใครมานิยามว่าเราเป็นใคร แต่ให้บอกออกไปว่าอะไรที่เราเป็น เช่นเดียวกันครับสำหรับผู้ให้ อยากให้ผู้ให้ทุกคนให้ด้วยความรู้สึกที่ดี ให้ด้วยความรู้สึกที่เป็นบวก ให้ด้วยความรู้สึกที่เป็นสุข และนำความปลาบปลื้มยินดีมาสู่ทั้งผู้ให้และผู้รับ
สงสาร ที่เธอให้ นั้นคือทุกข์ อยากได้สุข ที่ใช่ เพราะคู่ควร
.
เป็นกำลังใจให้ครับ
-อนัตตา-
.
เนื้อหาด้านบน สามารถ รับชมและรับฟังได้ที่ https://youtu.be/oViJ6vnLfdg
.